แคนนอนติดตั้งกังหันลมระบบไฮบริด ผสานการใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์ให้สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำพลังงานสะอาดที่ได้ไปใช้ในโรงงานแปรรูปชาคุณภาพหลากหลายสายพันธุ์ โดยโครงการหลวงตั้งเป้าหมายการผลิตชาสด 3,500 กก./สัปดาห์ ชาแห้ง 700 กก./สัปดาห์ ซึ่งกังหันลมระบบไฮบริดนี้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้กว่า 4 ตันต่อปี
โครงการ “พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียว” โดยแคนนอน ได้สนับสนุนการการใช้พลังงานสะอาดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยดำเนินการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้กับโรงเรียนในชนบททั่วภูมิภาค 38 แห่ง รวมทั้งการติดตั้งกังหันลมระบบไฮบริด (พลังงานลมและแสงอาทิตย์) ที่โครงการหลวง 2 แห่ง ได้แก่ ที่หน่วยวิจัยขุนห้วยแห้ง สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เมื่อปี พ.ศ. 2555 และปีนี้ที่สถานีเกษตรหลวง อ่างขาง รวมจำนวนกังหันลมที่ติดตั้งแล้ว 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสามารถลดปริมาณการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 51 ตัน/ปี
นายอลัน ชึง ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ “พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียว” โดยแคนนอน ได้ดำเนินการติดตั้งกังหันลมในโรงเรียนชนบททั่วประเทศ และติดตั้งกังหันลมระบบไฮบริด ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นลำดับที่ 40 เพื่อสนับสนุนโรงงานแปรรูปชาแห่งใหม่ของโครงการหลวง เพราะชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ของโลก หากประเทศไทยมีกำลังผลิตภัณฑ์ชาคุณภาพดีเพิ่มขึ้นก็จะสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้สู่เหล่าเกษตรกรในพื้นที่ ทำให้ชุมชนเกิดการพัฒนาและเรียนรู้กระบวนการเพาะปลูกรุ่นสู่รุ่น แคนนอนจึงภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัญชาเคียวเซ “Kyosei” ที่ว่า “การใช้ชีวิตและทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์สุขแก่ส่วนรวม”
แคนนอนได้ติดตั้งกังหันลมระบบไฮบริด (พลังงานลมและแสงอาทิตย์) ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขนาด 4 กิโลวัตต์ จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยกังหันลมขนาด 1 กิโลวัตต์ จำนวน 2 ตัว และแผงโซล่าเซลล์ ขนาด 2 กิโลวัตต์ ต่อเข้ากับ Grid inverter เพื่อเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการนำกระแสไฟฟ้าที่ได้ไปใช้ในกระบวนการแปรรูปชาคุณภาพดีอย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการหลวงจะลดภาระค่าใช้จ่ายได้ถึงปีละ 22,192 บาท อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานทดแทน ให้กับชุมชนบนพื้นที่สูงได้อย่างต่อเนื่อง
สถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี สภาพภูมิประเทศจึงเหมาะกับการปลูกชาคุณภาพดี โครงการหลวงได้ส่งเสริมอาชีพการปลูกชาให้กับเกษตรกรไทยภูเขา ขณะนี้โครงการหลวงกำลังปรับปรุงพื้นที่เพื่อขยายโรงงานแปรรูปชาตามมาตรฐานสากล และเพิ่มผลผลิตชาคุณภาพดีให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โครงการหลวงได้ตั้งเป้าหมายการผลิตชาสดที่ 3,500 กก./สัปดาห์ ชาแห้ง 700 กก./สัปดาห์ ซึ่งชาพันธุ์ดีที่เป็นที่นิยมได้แก่ ชาเขียว ชาแดง อู่หลงก้านอ่อน และอู่หลง No.12 เป็นต้น ตลาดต่างประเทศที่สนใจผลผลิตชาคุณภาพของโครงการหลวง มีทั้งที่แถบเอเชียและยุโรป อาทิ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเยอรมัน
โครงการ “พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียว” โดยแคนนอน ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบการดำเนินกิจการครบ 15 ปีของแคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) เมื่อปี 2552 โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเรือนกระจก และทำให้โลกร้อน ในปี 2557 แคนนอน ได้ติดตั้งกังหันลมที่โรงเรียนในชนบท 2 แห่งคือ โรงเรียนบ้านเหล่าหญ้า จังหวัดเพชรบูรณ์ และโรงเรียนหาดปากเมง จังหวัดตรัง และติดตั้งกังหันลมไฮบริดที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง รวมจำนวนกังหันลมที่ติดตั้งไปแล้วทั้งสิ้น 40 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งกังหันลมทั้งหมดนี้จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้รวมทั้งสิ้น 68,036 กิโลวัตต์ /ปี และจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 51 ตัน/ปี (ที่มา: องค์กรพลังงานของสหรัฐอเมริกา กระทรวงพลังงานของแคนาดา หน่วยเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักร และหน่วยงานภาครัฐในออสเตรเลีย ซึ่งเผยแพร่ใน www.carbonify.com คำนวณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยถ่านหินที่ 1.5 ปอนด์)